สุภโชค สารชาติ ซัดนาทีสุดท้าย ส่ง ปราสาทสายฟ้า ชนะ เมืองทอง ผงาดแชมป์โค้กคัพ สมัยที่ 3

สุภโชค สารชาติ ซัดนาทีสุดท้าย ส่ง ปราสาทสายฟ้า ชนะ เมืองทอง ผงาดแชมป์โค้กคัพ สมัยที่ 3

ผลฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย

“โค้ก คัพ 2017” ครั้งที่ 20 รอบชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-0 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

สนาม : บุณยะจินดา

ประตู : 1-0 สุภโชค สารชาติ น.90

การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ “โค้ก คัพ 2017” ครั้งที่ 20 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามบุณยะจินดา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ประเทศ 2 สมัย ครั้งที่ 16 และครั้งที่ 17 พบ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ประเทศ 2 สมัยเช่นกัน ครั้งที่ 18 และครั้งที่ 19

เกมนี้ “โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร กุนซือ “ปราสาทสายฟ้า” จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพโดย “กัปตันเช็ค” สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด, รัตนากร ใหม่คามิ, เมธี สาระคำ ลงเป็นแกนหลัก และมี ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา เป็นทีเด็ดอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง

เริ่มครึ่งแรก นาทีที่ 4 สุภโชค สารชาติ ได้บอลตรงกลางสนามก่อนจะหมุนวางออกซ้ายให้ พนาเวท เกษละคร ได้กระชากขึ้นหน้าแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ เมธี สาระคำ ได้ใช้สปีดไล่บอล แต่ เป็น ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ นายด่านกิเลนผยองออกมารับบอลไว้ได้

นาทีที่ 12 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ทักทายหนัก สุภโชค สารชาติ เปิดบอลจากซ้ายเข้าไปที่เสาสอง ศุภชัย ใจเด็ด ได้โขกบอลจะเสียบเสา ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ ปัดออกหลังไว้ได้ทัน

นาทีที่ 25 ปราสาทสายฟ้า ได้ขึ้นเกมทางขวา สุภโชค สารชาติ วางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ ศุภชัย ใจเด็ด ทะยานขึ้นโขกได้พร้อมกับ ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ นายด่านเมืองทอง ออกมาตัดบอล ก่อนเป็น ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ หันมาเจอบอลและรับไว้ได้

3 นาทีให้หลัง บุรีรัมย์ มาได้ฟรีคิก รัตนากร ใหม่คามิ เปิดเข้าไปในเขตโทษ เมธี สาระคำ ยิงติดบล็อก ก่อนจะไหลกลับหลังให้ สุภโชค สารชาติ ได้ตั้งป้อมซัดบนเส้นกรอบเขตโทษติดบล็อกอีกครั้ง

นาทีที่ 42 ปราสาทสายฟ้า น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุด กฤษณะ ดาวกระจาย แทงบอลให้ เมธี สาระคำ ได้ลากจากขวาเข้าเขตโทษก่อนจะจ่ายยัดไปกลางประตู สุภโชค สารชาติ เข้าชาร์จไม่ถึง บอลผ่านเท้าไปนิดเดียว จากนั้นไม่มีจังหวะเพิ่ม ทำให้จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีม ยังเสมอกันที่ 0-0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังนาทีที่ 48 เมืองทอง ได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา ธีรภัค ปั้นบุญชู เปิดด้วยซ้ายเข้ากรอบ รชตะ สมพร โขกบอลออกหลังไป

นาทีที่ 56 พนาเวท เกษละคร กระชากบอลขึ้นทางซ้ายเปิดเข้ากลางประตู สุภโชค สารชาติ พยายามดึงบอลลงบอลเด้งมาเข้าทาง เมธี สาระคำ ได้วอลเลย์บอลลอยข้ามคานออกหลังไป

นาทีที่ 63 บุรีรัมย์ มาได้ฟรีคิกทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย รัตนากร ใหม่คามิ เปิดบอลกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไป ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ รับบอลพลาดชุลมุนกันหน้าประตูผู้เล่นบุรีรัมย์ ซัดบอลเข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นการฟาวล์ไปก่อนแล้ว

นาทีที่ 78 รัตนากร ใหม่คามิ โหม่งบอลให้ ศุภชัย ใจเด็ด แทงขึ้นหน้าให้ สุภโชค สารชาติ ได้กระชากเข้าเขตโทษก่อนจะตัดสินใจยิงบอลพุ่งผ่านปากประตูเฉี่ยวเสาไกลออกหลังไป

GOAL!!! นาทีที่ 90 ประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้น พนาเวท เกษละคร ได้บอลทางซ้ายไหลให้ สุภโชค สารชาติ บังบอลก่อนจะลากบอลโยกหลอก 2 นักเตะกิเลนผยอง แล้วบรรจงปั่นด้วยเท้าขวาบอลโค้งผ่านมือ ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ เสียบเสาขวาเข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0

เวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปได้ 1-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงแชมป์ประเทศไทย “โค้ก คัพ 2017” ไปครอง พร้อมกับทำให้ ปราสาทสายฟ้า เป็นแชมป์ประเทศไทย เป็นสมัยที่ 3 รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท ไปครอง และได้สิทธิ์บินไปสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร ในศึกเจลีก เพื่อฝึกประสบการณ์ลูกหนัง 1 สัปดาห์

นอกจากนี้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแต่ละตำแหน่ง มีดังนี้ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม : นพพล ละครพล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), กองหลังยอดเยี่ยม : รชตะ สมพร (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), กองกลางยอดเยี่ยม : สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), กองหน้ายอดเยี่ยม : ปรเมศย์ อาจวิไล (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), ดาวซัลโว : เมธี สาระคำ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) ทำประตู 4 ประตู และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมนัดชิงชนะเลิศ (MVP) : สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : นพพล ละครพล (ผู้รักษาประตู), คีรอน อ้อนชัยภูมิ (ศราวุธ มั่นจิตร น.77), มาร์โก เซนเดเร็ค, กฤษณะ ดาวกระจาย, พนาเวท เกษละคร, พีฬาวัช อรรคธรรม, รัตนากร ใหม่คามิ, ธีราภักดิ์ เปรื่องนา (ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา น.55), สุภโชค สารชาติ (C), เมธี สาระคำ, ศุภชัย ใจเด็ด

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : ญาณสิทธิ์ สุขเจริญ (ผู้รักษาประตู), ญาณฤทธิ์ สุขเจริญ (สกุลชัย แสงโทโพธิ์ น.90+1), วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, รชตะ สมพร, พัชรพล อินทนี, เทพวิรุฬห์ ฉัตรกิตติโรจน์ (C), ธีรภัค ปั้นบุญชู (โยธิน เบียงแร่ น.89), ชนายุทธ ศรีสวัสดิ์, ปรเมศย์ อาจวิไล (อนุวัฒน์ เพียรแก้ว น.88), ซัลดี้ วงษ์เดอรี, ธีรภัทร เลาหบุตร

You May Also Like